สำ หรับน.ส.ทิพย์ หลังจากที่ถูกชาวบ้านล้อมไว้จึงยอมออกมาจากกุฏิ พร้อมทั้งปิดหน้าปิดตาพร้อมบอกกับชาวบ้านและประธานชุม ชนว่า "เอาหนังสือมาให้ป๋าเซ็น" ทำเอาชาวบ้านหลายคนถึงกับตกตะลึง ก่อนที่จะกล่าวแก้ตัวว่า "เอาหนังสือมาให้พระครูเซ็น" จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวน.ส.ทิพย์ ไปสอบปากคำ ส่วนชาวบ้านก็แจ้งกับทางเจ้าคณะ ตำบล เจ้าคณะอำเภอ และสำนักงานพระ พุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ให้รับทราบ และพร้อมใจกันมารอผลการสอบปากคำ รวมทั้งการสรุปของชาวบ้านที่ในวิหารหลวงดังกล่าว
จากการสอบปากคำ น.ส.ทิพย์ให้การว่า มาหาพระครูพิพิธ ในช่วงกลางคืนเพราะต้องนำเอกสารมาให้พระครูพิพิธเซ็นที่กุฏิ โดยมาสัปดาห์ละ 3 วัน และนำน้ำดื่มมาให้พระครูฉันด้วย โดยพระครูพิพิธ ตั้งให้ตนเป็นเลขาฯมูลนิธิโรคเอดส์ และยืนยันว่าตนกับพระครูไม่ได้มีอะไรกัน หลังสอบปาก คำและบันทึกปากคำทางตำรวจอนุญาตให้ น.ส.ทิพย์ กลับบ้านได้ เนื่องจากทางตำรวจไม่สามารถเอาผิดในเรื่องของกฎหมาย แต่ในเรื่องของสงฆ์ เป็นหน้าที่ของทางคณะ สงฆ์ และชาวบ้านจะตัดสินใจกันอย่างไร
พระครูโฆษิตปริยัตยาภรณ์ เจ้าคณะตำบลสุเทพ เปิดเผยว่า การจะเอาผิดกับพระสงฆ์ที่ทำผิดอธิกรณ์ ต้องมีหลักฐานชัดเจนก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเอาผิดกับพระสงฆ์รูปนั้นได้ การที่หญิงดังกล่าวไปนอนในกุฏิยามวิกาลถือว่าไม่เหมาะสม แต่ทุกคนก็ไม่เห็นว่าทั้งคู่มีอะไรกัน ฉะนั้น กฎของสงฆ์มีระบุไว้ต้องมีหลักฐานชัดเจน ส่วนความไม่เหมาะสมนั้นไม่เหมาะสมแน่ ก็ต้องแล้วแต่มติของศรัทธาชาวบ้านว่าจะเอาหรือไม่อย่างไร หากศรัทธาชาวบ้านไม่ต้องการพระสงฆ์รูปนี้ก็อยู่ลำบาก ขึ้นอยู่กับทางพระสงฆ์รูปนั้นว่าจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้ท่านก็ไม่อยู่ ก็คงต้องรอการชี้แจง
ทางด้านประธานชุมชนและชาวบ้านสรุปว่า จะให้พระครูพิพิธ มาชี้แจงต่อชาวบ้านที่วิหารแห่งนี้ภายใน 3 วัน หากไม่มาชี้แจงหรือไม่ปรากฏตัวก็ขอให้พระครูพิพิธ ขนข้าวขนของไปอยู่ที่วัดอื่น เพราะชาวบ้านหมด ศรัทธาแล้วกับพฤติกรรมแบบนี้ ชาวบ้านในละแวกนี้รู้กันมานานแล้ว ไม่ต้องการให้พระรูปนี้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ต่อไป เพราะอีก 6 เดือนก็จะมีการแต่งตั้งเจ้า อาวาส และพระครูพิพิธ ก็เป็นพระที่ถูกเสนอชื่อให้รับการเป็นเจ้าอาวาสรูปต่อไป
ต่อมาเวลา 09.45 น. พระครูพิพิธสุตาทร รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนดอก เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ต.วินัย รวิเดช ร้อยเวร สภ.ภูพิงค์ เชียงใหม่ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยโฆษณาประกาศเสียงตามสาย กล่าวหาทำ ให้ได้รับความอับอายและทำให้เสียชื่อเสียง จึงแจ้งความเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายสุรพล วิริยะพันธุ์ ประธานชุมชนวัดสวนดอก, นายนพดล อนันตทวัช รองประ ธานชุมชนวัดสวนดอก และร.ต.จันแก้ว กัน ทา ประธานผู้สูงอายุชุมชนวัดสวนดอก ในข้อหาหมิ่นประมาทเสียงตามสายชักชวนชาวบ้านออกมาขับไล่ โดยทางพระครูพิพิธ แจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับทั้ง 3 อย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม หลังชาวบ้านทราบเรื่องว่าผู้นำชุมชนถูกแจ้งความดำเนินคดี ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากเกิดความไม่พอใจและลุกฮือพากันเข้ามาที่วัดเพื่อกดดัน แต่ไม่พบพระครูพิพิธแต่อย่างใด |