"บิลด์" รายงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอบุตรสาวของ แชนเทล สเตดแมน วัย 15 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสาวของ เด็กชายอัลฟี แพ็ตเทน วัย 13 ปี ที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก ด้วยการประกาศว่าเขาได้ให้กำเนิดทายาทกับเพื่อนหญิง หลังจากมีเซ็กส์ไม่ป้องกันนั้น ปรากฎว่าบุตรสาวไม่ใช่ลูกของเด็กชายอัลฟีแต่อย่างใด โดยการพิสูจน์ดีเอ็นเอดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เด็กชายอัลฟี ต้องการสร้างความกระจ่างชัดให้แก่สังคมว่า เขาเป็นพ่อของลูกเพื่อนสาว หลังจากมีเด็กชายอังกฤษอีก 5 ราย ออกโรงมาอ้างว่าเป็นพ่อของเด็กดังกล่าว


ก่อนหน้านี้ แชนเทล ยืนยันว่า เธอตกหลุมรักกับอัลฟี และอ้างว่าเขาเป็นผู้พิชิตพรหมจรรย์ของเธอ และทำให้เธอตั้งท้อง โดยอัลฟีดีใจมากที่เขาจะได้เป็นพ่อคน บอกว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่หลับนอนกับเธอ และเขาต้องการพิสูจน์ดีเอ็นเอพิสูจน์ความเป็นพ่อ เพื่อให้เหล่าเด็กชายทั้งหลายหุบปากอ้าง


อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ต้องตรวจดีเอ็นเอเพราะหลังจากที่ข่าวของอัลฟีออกไป ทำให้กลายเป็นเรื่องบานปลายเนื่องจาก นายริชาร์ด กู๊ดเซลล์ วัย 16 ปี เชฟฝึกหัด และ ไทเล่อร์ บารเกอร์ เด็กชายวัย 14 ปี ออกแถลงการณ์อ้างว่าเป็นพ่อของเด็กคนดังกล่าว โดยทั้งสองระบุว่า เคยหลับนอนกับชานเตลเล่ โดยมีเซ็กส์ที่ไม่ได้ป้องกันเธอ ขณะที่นายริชาร์ดบอกว่า เขามีเซ็กส์กับเธอหลายครั้ง แต่หลังจากเลิกกัน ก็พบว่าเธอเที่ยวมีเซ็กส์กับเด็กอื่นๆ อีกเยอะแยะ


ขณะที่ อัลฟี ก็ออกโรงโต้ว่าการอ้างดังกล่าวเป็นเรื่องหลอกหลวง จุดประสงค์ต้องการใส่ร้ายภาพลักษณ์ของ แชนเทล และเขาพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ ด้วยการตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเขาเป็นพ่อของเด็กที่แท้จริง เพื่อต้องการปิดปากเรื่องใส่ร้ายป้ายสีทุกอย่างที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเป็นเพื่อนชายคนเดียวกับแชนเทล


ด้านครอบครัวของแชนเทลยืนยันว่า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้แก่อัลฟีจริง